ก่อนจะมาเป็นผงกาแฟที่เราใช้ชงดื่มกัน ต้องผ่านกระบวนการปลูก การเก็บผลผลิตและการนำไปคั่ว ซึ่งขั้นตอนการคั่วนี่เองที่เป็นหัวใจสำคัญ เพราะขั้นตอนนี้จะทำให้กาแฟส่งกลิ่นหอมน่าดื่มออกมา โดยหากคั่วไม่ดี ก็จะทำให้กาแฟมีกลิ่นและรสชาติแปลก ที่ไม่น่าดื่มได้ และในบทความนี้เราก็จะมาเผยเคล็ดลับการคั่วกาแฟที่หลายคนอยากรู้กัน รับรองรู้แล้วคุณจะต้องทึ่ง
Credit : vesti-info.rs
ขั้นตอนการคั่วกาแฟ
1.เตรียมเครื่องคั่วและกาแฟที่จะคั่วให้พร้อม
2.เริ่มจากการตั้งเตาเครื่องคั่วให้มีความร้อนในระดับที่พอเหมาะ โดยใช้ไฟระดับปานกลาง
3.นำเมล็ดกาแฟใส่ลงไปในเครื่องคั่ว แล้วคั่วด้วยไฟระดับปานกลาง จนสีของเมล็ดกาแฟเริ่มดูซีดลง
4.เมื่อเมล็ดกาแฟเริ่มมีสีซีดแล้ว ให้เร่งไฟให้แรงขึ้น จากนั้นเปิดลมให้แรงขึ้นด้วยเช่นกัน
5.คั่วไปเรื่อย จนเมล็ดกาแฟปริแตกแล้วลดไฟลงเล็กน้อย คั่วต่อด้วยไฟอ่อนๆ
6.คั่วต่อไปจนเมล็ดกาแฟปริแตกอีกครั้ง แล้วปล่อยเมล็ดกาแฟลงสู่ถัง cooling พร้อมสำหรับนำไปบดแล้วใช้ชงดื่มต่อไป
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะกับวิธีการคั่วกาแฟ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับไฟที่ใช้ในการคั่วนั่นเอง โดยจะต้องพยายามควบคุมไฟให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและคอยเพิ่มลดไฟอยู่เสมอ ที่สำคัญคือ จะต้องคอยฟังเสียงเมล็ดกาแฟปริแตกให้ดี เพราะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรหรี่ไฟลงเมื่อไหร่ และควรเสร็จสิ้นการคั่วเมื่อไหร่
Credit : girmakaffacoffee.com
เคล็ดลับที่ควรรู้
นอกจากขั้นตอนในการคั่วกาแฟแล้ว ก็ยังมีเคล็ดลับเล็กน้อย เพื่อการคั่วกาแฟให้มีกลิ่นหอมน่าดื่มอีกด้วย ซึ่งเคล็ดลับเหล่านี้คุณจะต้องจำให้ขึ้นใจ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการคั่วนั่นเอง โดยมีเคล็ดลับที่ควรรู้ ดังนี้
ความร้อนตั้งต้นของเตาต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม
เพราะหากความร้อนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ก็จะทำให้เมล็ดกาแฟไหม้หรือไม่สุกได้ อีกทั้งยังอาจจะทำให้ขมเกินจนไม่มีรสชาติของความอร่อยอีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนจะนำเมล็ดกาแฟลงไปคั่ว ควรปรับระดับความร้อนของเตาให้ได้ที่ซะก่อน และช่วงแรกๆ ของการคั่วเมล็ดกาแฟนี้ห้ามทิ้งห่างจากเตาเด็ดขาด เพราะแค่ละสายตาเพียงแปปเดียว เมล็ดกาแฟก็อาจจะไหม้ซะแล้ว
Credit : glenlyoncoffee.co.uk
ชนิดของเตาทีใช้คั่วก็มีผลต่อรสชาติเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นหากคิดจะคั่วเมล็ดกาแฟ ก็ควรเลือกเตาที่เหมาะกับการคั่วที่สุด และต้องเป็นเตาที่ได้มาตรฐานด้วย
การเปิดปิดลมในการคั่วและการเร่งลดไฟ
สำหรับการเปิดปิดลมในการคั่วและการเร่งลดไฟในช่วงเวลาต่างๆ ก็มีผลต่อรสชาติของกาแฟเหมือนกัน ดังนั้นจึงควรควบคุมจังหวะในการเร่งและลดไฟให้ดี รวมถึงจะต้องเปิดปิดลมอย่างพอเหมาะด้วย ซึ่งก็จะต้องใช้ความเข้าใจสักนิด เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่สุกและมีกลิ่นหอมกรุ่นน่าทานยิ่งขึ้น
Credit : therealitalianfood.com
ควรใช้ความใส่ใจในการคั่วเมล็ดกาแฟ
ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพราะไม่ว่าอะไรก็ตาม หากใช้ความใส่ใจในการทำ ก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างน่าพอใจที่สุด
ทีนี้ก็พอจะเข้าใจเกี่ยวกับการคั่วเมล็ดกาแฟกันแล้วใช่ไหมเอ่ย ซึ่งดูเหมือนจะง่ายแต่จริง แล้วก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะต้องอาศัยหลายปัจจัยด้วยกัน เพื่อให้กาแฟมีกลิ่นที่หอมกรุ่นและมีรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มลดไฟที่ใช้ การเปิดปิดลม และการเลือกใช้เตาคั่วอย่างเหมาะสม ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจและความชำนาญเป็นอย่างมาก กว่าจะได้เมล็ดกาแฟคั่ว ที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด ใครที่อยากจะคั่วเมล็ดกาแฟด้วยตัวเอง ก็ลองศึกษาเทคนิคเหล่านี้กันดู