Matcha และ Green Tea ความแตกต่างที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน

0
24,245 views

ชาเขียว เครื่องดื่มยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นที่ผลิตมาจากใบชา ซึ่งแต่ละแหล่งก็จะมีรสชาติและการปรุงแต่งที่แตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันชาเขียวได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย เรารู้จักกันในชื่อว่า Green Tea ที่เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำร้อนกับใบชา จนได้ออกมาเป็นน้ำชาสีเข้ม มีรสชาติขมเป็นเอกลักษณ์

Munnar Tea hills

Credit : uvernal.com

แต่เรานิยมนำมาผสมกับน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเพื่อเพิ่มรสชาติ ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่ต้นตำรับของชาวญี่ปุ่นโดยตรง และพวกเขาก็ไม่ยอมรับว่านี่คือน้ำชาเขียว แต่มันเป็นเพียงน้ำหวานธรรมดาที่ผสมน้ำชาเขียวลงไปเท่านั้น ส่วนอีกชื่อหนึ่งที่เราก็คุ้นหูกันอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นั่นก็คือเจ้าชาเขียวที่เรียกว่า Matcha เป็นชาเขียวที่แตกต่างจาก Green Tea

ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชนิดเดียวกัน ดังนั้นเพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น ลองมาทำความรู้จักกับชาเขียวทั้งสองประเภทว่ามีเอกลักษณ์ที่ต่างกันอย่างไรบ้าง

drinking-tea

Credit : drgifing.co

กลับไปสู่จุดกำเนิดของชาเขียวทั้ง 2 ชนิด

เริ่มต้น ชาเขียวก็มาจากต้นชาหลักๆ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน นั่นก็คือ ชาดำหรือที่รู้จักกันในชื่อว่าชาอู่หลง ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว Macha หรือ Green Tea ต่างก็มีต้นกำเนิดมาจากต้นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันอยู่ที่ “กรรมวิธีการผลิต” ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการเป็นชาเขียวคือ ไม่ว่าจะเป็นแบบผงที่ใส่ไว้ในซองไนล่อน แช่น้ำร้อน หรือจะเป็นแบบใบตากแห้งแล้วเอาไว้ชงกับน้ำร้อน

เราจะเรียกชาเขียวเหล่านี้ว่า “Green Tea” แต่ลักษณะการเรียกชื่อจะแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบ เช่น ใบชาที่เป็นใบแห้งใช้ชงกับน้ำร้อน เราเรียกกันว่า เซนฉะ (Sencha) แบบใบผสมกับความหอมของข้าวคั่วหรือชาข้าว จะเรียกว่า เก็นมัยฉะ (Genmaicha)

และชาเขียวที่นำมาบดเป็นผงละลายลงไปในน้ำ พร้อมดื่ม มีความเข้มข้นมากๆ เราเรียกกันว่า มัทฉะ (Matcha) เป็นชาเขียวที่จัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก และมีกรรมวิธีในการผลิตที่ซับซ้อนมากกว่า Green Tea อย่างมากเลยทีเดียว

2 (Custom)

Credit : green-tea-guide.com

ความซับซ้อนที่กว่าจะมาเป็น Matcha

Matcha อาจจะมาจากชาแบบเดียวกัน แต่การผลิตที่พุ่งเป้าไปที่ชาชนิดนี้โดยตรง จะมีขั้นตอนการปลูกที่เรียกได้ว่าซับซ้อนมากกว่า ชาเขียวชนิดอื่นๆ กรณีที่ต้องการได้ส่วนยอดของใบชาเอาไปใช้สำหรับทำ Matcha จะมีการดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก ด้วยการสร้างแสลนสำหรับกรองแสงให้ผ่านเข้ามาที่ต้นชาไม่มากนัก ซึ่งจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ต้นชามีการสร้างสารคลอโรฟิลล์มากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มระดับในการสังเคราะห์แสง ใบชาจะมีความแตกต่างจาก Green Tea สีใบมีความเข้มมากกว่า ก่อนจะนำยอดมาทำเป็น Matcha ให้สมบูรณ์แบบด้วยการบดให้ละเอียด

ความละเอียดอยู่ในระดับที่ละลายไปกับน้ำได้ นิยมนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร ขนม และเครื่องดื่มต่างๆ หรือจะชงดื่มกับน้ำธรรมดาก็ได้ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว Matcha จะมีราคาสูงมากกว่าชาเขียวแบบอื่นๆ ดังนั้นมักนิยมนำมาใช้ชงดื่มสำหรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน หรือในงานพิธีชงชา

matcha-green-tea-powder-wisk (Custom)

Credit : eatthis.com

โดยสรุปแล้วใบชาเขียวระหว่าง Macha กับ Green Tea มีความแตกต่างกันตั้งแต่ขั้นตอนในการปลูกแล้ว ไปจนถึงกระบวนการผลิต แม้จะเป็นใบชาเหมือนกัน แต่การดูแลก็จะมีความแตกต่างกัน ชาเขียวธรรมดาใช้ชงดื่มเป็นเครื่องดื่มร้อนทั่วไปที่มีความหยาบ ต้องกรองก่อนนำไปดื่ม แต่สำหรับมัทฉะแล้วจะถูกบดอย่างละเอียดมากที่สุดจนเกือบจะกลายเป็นผงแป้ง จัดได้ว่าเป็นชาชั้นยอดของชาวญี่ปุ่น นิยมนำไปใช้ในพิธีชงชาที่ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย