เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อของเมนูเครื่องดื่มประเภทกาแฟชนิดนี้เท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้นเอสเปรสโซ่ ลาเต้ คาปูชิโน่หรือมอคค่า ส่วน “จาไมก้าบลูเม้าท์เท่น” เป็นประเภทของกาแฟชนิดบลูเม้าท์เท่นที่ไม่ค่อยออกวางจำหน่ายให้เราได้เห็นกันเท่าใดนัก และหากส่วนใหญ่ที่พบตามร้านกาแฟก็ถือว่าเป็นของไม่แท้
Credit : mentalfloss.com
เนื่องจากมันเป็นชนิดกาแฟที่เลอค่า จัดอยู่ในกาแฟระดับสูงที่ให้รสชาติอร่อย พร้อมด้วยความหอมกรุ่นจนคอกาแฟทั้งหลายต่างพยายามสรรหามาลิ้มลอง ที่สำคัญไปกว่านั้นในเมื่อมันเป็นกาแฟที่หายากและมากมายด้วยเสน่ห์อันน่าเย้ายวลใจ…ราคาของมันจึงสูงตามไปด้วย
ทำความรู้จักกับกาแฟ “บลูเม้าท์เท่น”
สำหรับกาแฟสายพันธุ์นี้มีรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์อันเนื่องมาจากแหล่งเพาะปลูกที่ตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจาไมก้า สายพันธุ์ของมันก็คืออาราบิก้าแท้ๆ แต่ด้วยปัจจัยแวดล้อมทำให้มันมีรสชาติอันทรงเสน่ห์และน่าลิ้มลองเป็นพิเศษ โดยส่วนใหญ่จะถูกส่งขายไปยังประเทศญี่ปุ่น มีราคาแพงกิโลกรัมละหลายพันบาทจึงจะจัดได้ว่าเป็นของแท้
ต้นกำเนิดของมันหากกล่าวถึงชื่อนี้อย่างตรงไปตรงมา มันคือกาแฟอาราบิก้าที่ถูกปลูกอยู่บนเทือกเขาบลูเม้าท์เท่นของประเทศจาไมก้า จึงกลายมาเป็นชื่อเรียกขานกันอย่างง่ายๆ ว่าจาไมก้าบลูเม้าท์เท่น และด้วยแหล่งผลิตเพียงหนึ่งเดียวแห่งนี้เท่านั้นที่เราจะได้สัมผัสกับรสชาติของกาแฟแบบต้นตำรับอย่างแท้จริง หากมาจากแหล่งอื่นก็ถือว่าเป็นของไม่แท้และพยายามที่จะลอกเลือกแบบรสชาติให้คล้ายคลึงเท่านั้นเอง
Credit : passportto.iberostar.com
กาแฟชนิดนี้ถูกจัดให้เป็น SingleOrigin กล่าวง่ายๆ คือแม้จะเอาเมล็ดพันธุ์ที่ได้ไปปลูกในพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะทางแวดล้อมที่ใกล้เคียงกัน ทว่ารสชาติที่ได้ออกมานั้นกลับไม่เหมือนที่นี่ ดังนั้นราวกับเป็นการผูกขาดสินค้าทางธรรมชาติแห่งเดียวของโลกเท่านั้นที่เราจะได้สัมผัสกับรสชาติอันแท้จริงของมัน
เนื่องด้วยความ unique ของมันทำให้กลายเป็นกาแฟระดับแบรนด์เนมที่มีราคาสูงลิ่ว แก้วเล็กๆ ของมันมีราคาที่เราพอจะเอื้อมได้อยู่ที่ประมาณ 200 บาท การจะได้ลิ้มลองรสชาติของมันสักครั้งอาจจะต้องเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น หรือสั่งตรงมาจากแดนปลาดิบอีกทีนึง หากโชคดีก็อาจจะเจอร้านกาแฟที่นำเข้าจาไมก้าบลูเม้าท์เท่นมาให้ได้ลิ้มลองกันแบบจริงๆ ก็เป็นได้
Credit : histyle.vn
เสน่ห์ของรสชาติจากจาไมก้าบลูเม้าท์เท่น
สำหรับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟชนิดนี้ คือความหอมกรุ่นที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คลุกเคล้ารวมตัวกับรสชาติที่เข้มของบอดี้ได้อย่างลงตัว เมื่อน้ำกาแฟสัมผัสถูกลิ้นพร้อมกับการสูดกลิ่นหอมของมันตามเข้าไป ให้ความรู้สึกที่สดชื่น นุ่มนวลด้วยรสชาติแบบหวานๆ ไม่รุนแรงจนเกินไป ผ่อนคลายและนุ่มละมุนไปกับความลงตัวที่เหนือชั้น และด้วยความแพงของมันที่ยังมีมากกว่าแค่แก้วละ 200 บาท ความแท้ที่ลึกซึ้งมากขึ้นจะต้องมาจากกาแฟสายพันธุ์ทริปิกา (Tripica) จึงจะเรียกได้ว่าเป็นจาไมก้าบลูเม้าท์เท่นเกรดพรีเมี่ยมของแท้ และมันตกอยู่ในราคานำเข้าที่กิโลกรัมละเกือบ 6 พันบาท คงไม่แปลกนักหากใครอยากสัมผัสดูสักครั้ง แต่ก็ต้องพร้อมควักกระเป๋าตังค์จ่ายค่าเสน่ห์หากันมากกว่าอาราบิก้าที่กล่าวไปข้างต้นหลายเท่าตัวอยู่เหมือนกัน
Credit : turystyka.cmielow.com.pl
รสชาติของจาไมก้าบลูเม้าท์เท่นโดยสรุปแล้วหากต้องการความแท้ของมันแบบ 100 เปอร์เซ็นแล้วล่ะก็อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาราบิก้า แต่มันจะต้องเป็นสายพันธุ์ทริปิกาที่มีราคาแพงลิบลิ่วจนหาร้านกาแฟที่กล้าลงทุนได้ยาก แต่กระนั้นแม้กาแฟชนิดนี้จะหาลิ้มลองกันได้ไม่ง่าย แต่คอกาแฟหลายคนที่ได้ลองสัมผัสก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะชอบในกลิ่นและรสของมันไปเสียหมด เพราะความชอบที่ต่างกัน ทำให้เราได้มีกาแฟที่หลากหลายอย่างในปัจจุบันให้ได้เลือกดื่ม
ดังนั้นแม้จะให้นิยามว่าจาไมก้าบลูเม้าท์เท่นเป็นกาแฟชั้นเลิศในเรื่องรสชาติก็มิอาจจะถูกเสมอไป เพราะบางครั้งเราอาจจะชอบรสชาติเข้มๆ ของกาแฟไทยธรรมดา หรืออาราบิก้าบนแถบเหนือก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับความบันเทิงในรสชาติก็เป็นได้ค่ะ