ใครว่ากาแฟชั้นเลิศที่มีราคาแพงในท้องตลาด จะซับซ้อนด้วยกระบวนการเพาะปลูก หมักบ่ม คั่วและบดอย่างมีชั้นเชิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่า “การชิม” ยังเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เหล่านักสร้างสรรค์กาแฟพยายามสร้างคุณภาพอันสมบูรณ์แบบให้แก่คนรักการดื่มกาแฟได้สัมผัสกับรสชาติที่เปี่ยมล้นไปด้วยความอร่อยอย่างลงตัวมากที่สุด
Credit : finedininglovers.com
ขั้นตอนในการชิมกาแฟครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการปรับปรุงและแก้ไขหลายต่อหลายครั้ง คือสิ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน กว่าจะมาเป็นกาแฟแก้วโปรดในมือ…มันต้องผ่านการชิมอย่างพิถีพิถันจากมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นขั้นตอนที่เหล่านักชิมกาแฟจะต้องแยกแยะจึงไม่ใช่เพียงแค่ความอร่อยของรสชาติ…แต่มันมากด้วยจิตวิญญาณอันซับซ้อนที่ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกับนักชิมไวน์ตัวยงเลยทีเดียว
หลักการในการชิมกาแฟจากเหล่ามืออาชีพ
เนื่องด้วยเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ทำให้การชิมกาแฟเป็นขั้นตอนที่จะช่วยแยกกลิ่นและรสชาติที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะช่วยให้ได้มาซึ่งเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ การคัดเกรดในอีกระดับชั้นที่ซับซ้อนมากกว่าแค่การคัดเลือกวิธีการคั่วบดและชง เหล่านักชิมกาแฟจะไม่เพียงแค่จิบกาแฟแบบที่เราทำกันทั่วไป แต่จะวิธีการดมกลิ่นเป็นอันดับแรก สังเกตลักษณะของเมล็ดแต่ละสายพันธุ์ ทั้งความเข้มของเมล็ดกาแฟที่ได้หลังจากการคั่ว ระดับความหยาบหลังจากการบด ส่วนในขั้นตอนการชิม เมื่อจิบน้ำกาแฟที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆ จากส่วนผสมอื่น จะใช้วิธีการกลั้วภายในปากเพื่อให้ได้รับรสอย่างทั่วถึงมากที่สุด อีกทั้งนักชิมยังจำเป็นที่จะต้องชิมรสชาติของกาแฟในอุณหภูมิที่แตกต่างกันเพื่อหาความต่าง
Credit : bitinfos.com
การเริ่มต้นเป็นมือโปรอย่างนักชิมกาแฟระดับอาชีพ จะต้องมีลักษณะนิสัยชอบการสังเกต และหมั่นฝึกฝนการชิมเพื่อหาความแตกต่างอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถแยกแยะ กลิ่น สี และรสชาติของกาแฟได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เหล่านักผลิตกาแฟได้สามารถสร้างสรรค์รสชาติที่ลงตัวและรสชาติแปลกใหม่ที่เยี่ยมยอดขึ้นมา อีกทั้งยังช่วยให้เหล่านักชิมแยกแยะเมล็ดกาแฟที่ไม่ได้คุณภาพออกจากเมล็ดกาแฟคุณภาพได้ จึงถือว่าเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตกาแฟที่หลายคนไม่ค่อยนึกถึงเท่าใดนัก
เทคนิคของการชิมกาแฟให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
สำหรับมืออาชีพที่มีหน้าที่ในการชิมกาแฟ จะต้องใช้กาแฟที่ต้มด้วยน้ำที่ไม่ผ่านการกรอง เพื่อป้องกันไม่ให้รสชาติของกาแฟผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทางที่ดีเพื่อป้องกันการลืมทุกครั้งที่มีการชิมจะต้องมีกระดาษและปากกาจดสิ่งที่สัมผัสได้จากความรู้สึกเมื่อกาแฟถูกกลั้วอยู่ในปาก การเสิร์ฟจะต้องเลือกใช้ช้อนเงินเท่านั้นสำหรับการคนเพื่อไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ตกลงไป เอาง่ายๆ ว่าในกระบวนการนี้ต้องทำอย่างใจเย็นและเลือกใช้กระบวนการที่ป้องกันไม่ให้กาแฟเสียรสเดิมของมันไปได้
Credit : sosemarketing.com
นักชิมมืออาชีพกับการสังเกตกลิ่นของกาแฟ
กลิ่นของกาแฟคืออีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะระหว่างกาแฟคุณภาพและไม่คุณภาพออกจากกันได้ กลิ่นที่ได้จากการดมผ่านไอระเหยที่มาจากถ้วยกาแฟที่เพิ่งผ่านการชงมาหมาดๆ ซึ่งจะให้รสชาติที่คงที่ได้มากกว่า โดยทั่วไปนักชิมจะสังเกตทั้งรสชาติและกลิ่นที่เข้ากันมากที่สุด โดยพยายามให้คุณสมบัติทั้งสองอย่างสมดุลกัน ดังนั้นกลิ่นกาแฟที่ดีจะสัมผัสได้ถึงความเข้มข้น กลิ่นที่มาจากการคั่ว ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว หรือกลิ่นแปลกปลอมอื่นๆ เข้ามาปะปน นอกจากนี้กาแฟบางชนิดยังมีกลิ่นอื่นๆ ผสมผสานเข้าไปด้วยตามแหล่งการปลูกและในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัว อย่างที่กล่าวไปความหอมกรุ่นและรสที่ได้จะต้องกลมกล่อมและเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นคือกาแฟที่ให้คุณภาพที่สมบูรณ์แบบเพียงพอต่อการออกวางจำหน่าย
การชิมกาแฟจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การมองหารสชาติที่ถูกปากเท่านั้น ทว่ามันกลับซับซ้อนไปด้วยเรื่องราวมากมายที่เหล่านักชิมจะต้องใช้ประสบการณ์ชั้นสูงเพื่อให้ตัวเองสามารถแยกแยะความแตกต่าง จนกลายมาเป็นกาแฟที่ได้รับความเชื่อมั่นในรสชาติที่ลงตัวมากที่สุด
