ใครที่ชื่นชอบรสชาติของกาแฟ แต่ก็ต้องแอบผิดหวังว่าบางร้านที่ตั้งใจไปนั่งสัมผัสรสชาติทั้งที กลับได้กาแฟรสอ่อนจนจืด ทั้งที่สั่งเป็นช็อตเอสเปรสโซ่จากเครื่องชงแท้ๆ หรือบางครั้งแม้จะลองชงด้วยตัวเองที่บ้าน อัดกาแฟกับเครื่องบดจนแน่นแล้ว พอลองจิบก็ได้รสชาติที่ไม่เข้มข้นดั่งใจ ยิ่งเป็นกาแฟเย็นผสมน้ำแข็งด้วยแล้ว แทบจะกลายเป็นน้ำเปล่าธรรมดาที่ไร้เสน่ห์เลยทีเดียว แบบนี้เห็นทีจะต้องหาเหตุผล เพราะกาแฟจืดๆ แบบนี้ต้องหาทางแก้ก่อนที่จะรู้สึกหมดอารมณ์กับมัน…คอกาแฟจริงๆ ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติกันเลยทีเดียวที่ต้องรีบแก้ไข
Credit : buydontbuy.net
กะปริมาณผงกาแฟกับเครื่องชงน้อยไปหน่อย
เหตุผลหลักๆ ที่ไม่ยากเลย คือปริมาณของผงกาแฟคั่วบดที่นำใส่ในเครื่องชงกาแฟมีอัตราส่วนน้อยเกินไป ทำให้รสชาติความเข้มข้นของเอสเปรสโซ่ที่ได้มามีเป็นตัวดำเนินเรื่องมีความเข้มไม่เพียงพอ การแก้ไขคือปรับปริมาณผงกาแฟเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ตามหลักมาตรฐานจะใช้กันอยู่ที่ 8-12 กรัม ต่อเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต ส่วนเอสเปรสโซ่ 2 ช็อตก็เพิ่มปริมาณไปอีก 2 เท่า ซึ่งจะเน้นเอาไว้ใช้กับการชงกาแฟเย็น ทุกครั้งของการชงก็อย่าลืมตรวจสอบความผิดพลาดที่ตะแกรงสำหรับใส่ผงกาแฟก่อนเป็นอันดับแรก เพราะอาจจะเป็นความประมาทหรือมือใหม่ที่ทำให้ปริมาณของผงกาแฟน้อยไป ทางที่ดีควรสร้างประสบการณ์เรียนรู้ให้มากๆ เพราะคนที่เป็นนักชงมืออาชีพจริง แม้น้ำที่กลั่นผ่านผงกาแฟมีปริมาณนิดเดียวก็รู้แล้วว่ากาแฟเข้มหรืออ่อนไป ได้รสชาติที่พอดีตามต้องการหรือไม่
Credit : buy.pacificbru.coffee
สังเกตกันให้ง่ายๆ หากกาแฟมีความจืด สามารถดูได้ที่อัตราการไหลของน้ำ การกลั่นที่เป็นมาตรฐานทั่วไป จะกะระยะเวลาเอาไว้ที่ประมาณ 20-30 วินาที ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยนับกันตั้งแต่เริ่มกดปุ่มให้น้ำไหลสัมผัสกับผงกาแฟ กาแฟที่จืดไป น้ำจะไหลเร็วกว่าปกติ ขาดบอดี้จนเรียกได้ว่าจืดสนิท ดื่มแล้วรู้สึกว่ารสชาติบางมากๆ หากเอาไปชงเป็นกาแฟเย็นก็แทบจะเป็นน้ำเปล่า ซึ่งกรณีเช่นนี้หากปรับปริมาณผงกาแฟได้ดีแล้ว แต่น้ำยังไหลเร็วอยู่ นั่นก็สามารถเป็นได้ที่ความละเอียดของเครื่องบดที่ต้องปรับตั้งค่ากันใหม่
Credit : qz.com
เมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นชนิดคั่วอ่อนมากเกินไป
รสชาติกาแฟที่จืดเกินไป ไม่เพียงเฉพาะแค่ปริมาณผงกาแฟเท่านั้น แต่หากลองปรับตั้งค่าเครื่องชงกาแฟแล้ว แต่รสก็ยังไม่เข้มขึ้น อาจเป็นที่เมล็ดกาแฟที่มาจากการคั่วบดจนอ่อนมากไป สังเกตได้ไม่ยาก กรณีที่กาแฟคั่วอ่อนมากๆ สีของผิวเมล็ดกาแฟจะออกสีน้ำตาลแดง ไม่มีน้ำมันเคลือบผิวอยู่ ซึ่งนอกจากจะให้รสชาติจืดชืดแล้ว ยังทำให้มีรสเปรี้ยวเพิ่มเข้ามามากกว่ารสขม จะเหมาะกับการนำไปชงเป็นกาแฟร้อนมากกว่ากาแฟเย็น ซึ่งจะทำให้กาแฟเสียรสชาติไปเลยทีเดียว
หากเจอปัญหานี้ให้เปลี่ยนเมล็ดกาแฟใหม่ หากซื้อจากคนขายที่คั่วเตรียมไว้ให้ ก็ต้องบอกให้คั่วเมล็ดเข้มขึ้นอีกนิดหนึ่ง แต่หากว่าเมล็ดกาแฟเจ้าปัญหามีปริมาณอยู่มาก อาจะใช้วิธีปรับความละเอียดของเครื่องบดให้ได้ผงกาแฟที่มีความละเอียดขึ้นกว่าเดิม เพื่ออัดผงกาแฟในตะแกรงชงในปริมาณหนาแน่นมากขึ้น กลั่นช๊อตกาแฟใช้เวลานานขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขปัญหากาแฟที่มีรสอ่อนเกินไปได้
อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าการที่กาแฟมีรสชาติอ่อนเกินไป เกิดขึ้นได้จากหลายเหตุปัจจัย ขึ้นอยู่กับว่าคนชงจะมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นมืออาชีพจริงๆ ก็สามารถเลือกวัตถุดิบเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ การคั่วที่เหมาะสม การบดในระดับความละเอียดที่พอดี แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการชงที่สามารถสร้างรสกาแฟชั้นเลิศออกมาได้