กาแฟไม่ใช่เครื่องดื่มที่เพียงแค่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นให้กับเราเท่านั้น แต่มันกลับมากมายไปด้วยเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ บรรยากาศความคลาสสิค การสร้างสรรค์อันหลากหลาย เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมแพร่หลายกันไปทั่วโลก จากตำนานที่เล่าขาน
การค้นพบประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ จากดินแดนที่อยู่ห่างไกล ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้การบอกเล่า ลิ้มรส ส่งผ่านกันปากต่อปาก มือต่อมือ เราจะได้ลิ้มลองรสสัมผัสของกาแฟกันไปทั่วโลก ภายในแก้วกาแฟที่หอมกรุ่น ยังมีเรื่องราวอันซับซ้อนและละเอียดอ่อน เป็นศิลปะที่มากคุณค่าที่นักดื่มทุกคนต่างก็เข้าใจถึงการพยายามคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุด สู่กระบวนการมากมาย จนกลายมาเป็นกาแฟสักถ้วยที่มีเบื้องหลังของการชงจากบุคคลที่เรียกตนเองว่า “บาริสต้า” ผู้เชี่ยวชาญของการชงกาแฟ ที่ต้องใช้หัวใจร้อยเรียงเข้ากับศิลปะอันล้ำค่าที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
Credit : pinterest.com
เบื้องหลังของนักชงกาแฟในนาม “บาริสต้า”
บาริสต้าคือ นักชงกาแฟที่ไม่เพียงแค่มีความสามารถในการชงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกฝน เรียนรู้ ผ่านประสบการณ์มากมายกว่าจะได้กาแฟที่สมบูรณ์แบบสักแก้ว พวกเขาต้องมีความรู้เกี่ยวกับการชงอย่างรอบด้าน จากทั้งหมดที่ผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนัก ความรู้ทั้งมวลก็จะตกผลึก กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างสรรค์รสชาติกาแฟได้อย่างดีเยี่ยม ถึงวันนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นบาริสต้าที่แท้จริง
Credit : folha.uol.com.br
ความสำคัญของการทำหน้าที่บาริสต้าแบบมืออาชีพ
ในประเทศไทยเราอาจจะไม่ค่อยเข้าใจความสำคัญของบาริสต้านัก เพียงรู้แค่ว่าเป็นคนที่มีความสามารถในการชงกาแฟสดเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับในประเทศอิตาลีแล้ว อาชีพนี้ถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คนที่เป็นบาริสต้าจะได้รับการยกย่องเทียบชั้นกับเหล่านักชิมไวน์กันเลยทีเดียว
การเดินเรื่องของเหล่าบาริสต้าจะเริ่มต้นที่ “เอสเปรสโซ่” เป็นชนิดของกาแฟที่เหล่าคอกาแฟจะสั่งกันเป็นประจำ ซึ่งกาแฟชนิดนี้จะบอกได้ว่ารสชาติที่ของกาแฟที่ได้นั้นมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน คนที่มีความสามารถในด้านนี้จะแยกแยะได้ผ่านกลิ่นและรสสัมผัส อีกทั้งยังเป็นกาแฟที่ถูกเสิร์ฟให้กับเหล่าคนที่ชอบความเข้มข้น โดยที่บาริสต้าจะต้องรู้สัดส่วนของกาแฟคั่วบดที่นำมาใช้ผสมกับน้ำ ซึ่งรสชาติจะต้องให้ความคงที่ได้มาตรฐานเท่ากันทุกในทุกๆ ถ้วย
การชงด้วยวิธีดั้งเดิม บาริสต้าจะต้องใช้ความสามารถของตัวเองล้วนๆ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในระหว่างการชงต้องใช้ความอดทนสูง มีสมาธิจดจ่ออยู่กับกระบวนการตรงหน้า แน่นอนว่ากว่าจะได้มาทำหน้าที่เป็นบาริสต้ามืออาชีพ คนเหล่านี้จะต้องผ่านความผิดพลาดในการชงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
Credit : businessinsider.com
การชงแต่ละครั้งจะมีความสัมพันธ์กับระยะเวลา การชงที่ใช้เวลาพอดีไม่เร็วหรือช้าเกินไป จะได้รสชาติของเอสเปรสโซ่ที่ดีเยี่ยม ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อรสชาติของกาแฟได้ทั้งสิ้น แม้ในปัจจุบันจะมีการใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเข้ามาช่วย แต่บาริสต้าที่ใส่ใจกับการชงจริงๆ ก็ยังคงต้องรักษามาตรฐานในรสชาติให้เท่ากันอยู่เสมอด้วยการดึงเอาความสามารถของตัวเองมาใช้เหมือนเดิม
การจะก้าวเข้ามาสู่อาชีพบาริสต้าจึงไม่ใช่แค่การเป็นนักชงกาแฟทั่วไปเท่านั้น ภาพที่เราอาจจะเห็นว่าพวกเขามีหน้าที่ชงกาแฟอยู่หลังเคาเตอร์ตามรับออเดอร์ของลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่ลึกเข้าไปกว่านั้น พวกเขาจะต้องมีความอดทน มีความเข้าใจถึงหน้าที่ๆ จะต้องบริการลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ สร้างสรรค์บรรยากาศในร้านกาแฟให้ดูอบอุ่น ใส่ใจกับทุกหยดของการชง
Credit : fodors.com
นอกเหนือจากทั้งหมดนี้ บาริสต้ายังต้องมีหน้าที่ทุกอย่างภายในร้าน ตั้งแต่การล้างเก็บภาชนะ ปัดกวาด เก็บเก้าอี้ ทำความสะอาดร้าน ภายหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาจึงเปรียบเสมือนนักสร้างสรรค์ ที่เป็นทั้งจุดกำเนิดของรสชาติกาแฟในร้าน และเป็นนักศิลปะที่ต้องใช้หัวใจในการดึงเอาความงดงามในเมล็ดกาแฟออกมาพร้อมๆ กันด้วย
ใครที่อยากเริ่มต้นสู่การเป็นบาริสต้า อาจจะต้องคิดให้มากหน่อย เพราะอาชีพนี้ไม่ได้เปิดตำราศึกษาเพื่อให้ได้มาแบบง่ายๆ แต่ต้องผ่านความเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก ราวกับการฝึกของนักกีฬา วนเวียนอยู่กับสิ่งเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันจนกลายเป็นความคุ้นชิน หากใจไม่แกร่งพอก็อาจล้มเลิกกลางคันได้